Chapter 100 บทที่ 100
The Tithe
ทศางค์

The great work which Jesus announced that He came to do was entrusted to His followers upon the earth. Christ, as our head, leads out in the great work of salvation, and bids us follow His example. He has given us a worldwide message. This truth must be extended to all nations, tongues, and people. Satan’s power was to be contested, and he was to be overcome by Christ and also by His followers. An extensive war was to be maintained against the powers of darkness. And in order to do this work successfully, means were required. God does not propose to send means direct from heaven, but He gives into the hands of His followers talents of means to use for the very purpose of sustaining this warfare. {MYP 304.1}

พันธกิจยิ่งใหญ ่ที่พระเยซูทรง ประกาศว่าพระองค์เสด็จมาทำนั้นทรง มอบไว้แก่ผู้ติดตามของพระองค์ในโลก พระคริสต์ทรงเป็นศีรษะของเรา ทรงเป็น ผู้นำในพระราชกิจยิ่งใหญ่ของการช่วยให้ รอดและทรงบัญชาเราให้ทำตามแบบอย่าง ของพระองค์ พระองค์ประทานข่าวสารที่ ต้องประกาศไปทั่วโลก สัจธรรมชิ้นนี้ต้อง ประกาศไปสู่ทุกชนชาติ ทุกภาษาและคน ทั้งหลาย อำนาจของซาตานจะต้องถูก ท้าทาย พระคริสต์ทรงเคยเอาชนะมันและ ผู้ติดตามของพระองค์ก็เคยชนะมันด้วย เราต้องยืนหยัดทำสงครามขยายวงต่อต้าน อำนาจมืด และเพื่อทำงานนี้ให้สำเร็จ จะ ต้องใช้ปัจจัย พระเจ้าไม ่ทรงเสนอที่จะ ประทานปัจจัยนี้โดยตรงจากสวรรค์ แต ่ ประทานปัจจัยที่เป็นตะลันต์ไว้ในมือของ ผู้ติดตามของพระองค์เพื่อวัตถุประสงค์ใน การเสริมกำลังบำรุงแก่การทำสงครามนี้ {MYP 304.1}

He has given His people a plan for raising sums sufficient to make the enterprise self-sustaining. God’s plan in the tithing system is beautiful in its simplicity and equality. All may take hold of it in faith and courage, for it is divine in its origin. In it are combined simplicity and utility, and it does not require depth of learning to understand and execute it. All may feel that they can act a part in carrying forward the precious work of salvation. Every man, woman and youth may become a treasurer for the Lord, and may be an agent to meet the demands upon the treasury. Says the apostle, “Let every one of you lay by him in store, as God hath prosper Him. {MYP 304.2}

พระองค์ประทานแผนงานเพื่อ ระดมเงินทุนอย ่างเพียงพอในการรักษา กิจการนี้ให้ดำรงอยู่ได้ด้วยตนเอง แผน งานของพระเจ้าในเรื่องระบบทศางค์นี้มี ความสง่างามในรูปแบบที่ไม่ยุ่งยากแต่มี ความเสมอภาคกัน ทุกคนจะถือปฏิบัติ ด้วยความเชื่อศรัทธาและความกล้าหาญ เนื่องจากระบบนี้มีต้นกำเนิดจากพระเจ้าตัวระบบเองประกอบด้วยความเรียบง่าย แต่ให้ประโยชน์ และไม่ต้องการการเรียนรู้ อย่างลึกซึ้งเพื่อที่จะเข้าใจและนำไปปฏิบัติ ทุกคนจะรู้สึกว่าตนเองมีส่วนสานต่อพระ ราชกิจอันล้ำค ่าในการช ่วยมนุษยชาติ ให้รอดนี้ ชาย หญิงและเยาวชนอาจจะ กลายเป็นผู้ดูแลทรัพย์สมบัติของพระเจ้า ได้ และอาจจะเป็นผู้ให้การสนับสนุนเติม เต็มท้องพระคลังของพระองค์ได้ อัครทูต กล่าวว่า “ให้พวกท่านแต่ละคนแยกเงิน ออกและสะสมไว้ตามรายได้” 1 โครินธ์ 16:2 {MYP 304.2}

Great objects are accomplished by this system. If one and all would accept it, each would be made a vigilant and faithful treasurer for God; and there would be no want of means with which to carry forward the great work of sounding the last message of warning to the world. The treasury will be full if all adopt this system, and the contributors will not be left the poorer. Through every investment made, they will become more wedded to the cause of present truth. They will be “laying up in store for themselves a good foundation against the time to come, that they may lay hold on eternal life.”—Testimonies for the Church 3:388, 389. {MYP 304.3}

วัตถุประสงค์ยิ่งใหญ ่บรรลุความ สำเร็จได้ด้วยระบบนี้ หากแต่ละคนและคน ทั้งหมดจะยอมรับ แต่ละคนจะกลายเป็น เหรัญญิกที่ใส่ใจและซื่อสัตย์ของพระเจ้า และจะไม่มีความขัดสนในเรื่องของปัจจัย เพื่อสานต ่อพระราชกิจยิ่งใหญ่ของการ ประกาศข่าวเตือนครั้งสุดท้ายนี้ไปทั่วโลก พระคลังจะเต็มล้นหากทุกคนทำตามระบบนี้ และผู้ที่สนับสนุนจะไม่ถูกทอดทิ้งให้ต้อง ยากจนลงเลย โดยผ่านการลงทุนในด้าน ต่างๆ พวกเขาจะผูกพันกับอุดมการณ์ แห ่งสัจธรรมของยุคนี้มากยิ่งขึ้น พวก เขา “กำลังสะสมทรัพย์ที่เป็นรากฐานอันดี สำหรับตนในภายหน้า เพื่อพวกเขาจะยึด มั่นในชีวิต คือชีวิตที่แท้จริงนั้น” 2 ทิโมธี 9:19–“Testimonies for the Church,” Vol. 3, pp. 388, 389. {MYP 304.3}

The consecration to God of a tithe of all increase, whether of the orchard and harvest-field, the flocks and herds, or the labor of brain or hand; the devotion of a second tithe for the relief of the poor and other benevolent uses, tended to keep fresh before the people the truth of God’s ownership of all, and of their opportunity to be channels of His blessings. It was a training adapted to kill out all narrowing selfishness, and to cultivate breadth and nobility of character.—Education, 44. {MYP 305.1}

Recognition of God’s Ownership
การยอมรับว่าพระเจ้าทรงเป็น เจ้าของ

การถวายทศางค์ [หรือหนึ่งส่วนสิบผู้แปล] ของรายได้แด่พระเจ้าไม่ว่าได้มา จากการเก็บเกี่ยวสวนผักผลไม้และไร่นา จากฝูงปศุสัตว์หรือแรงงานจากสติปัญญา หรือฝีมือ และการอุทิศทศางค์ส่วนที่สอง เพื่อบรรเทาความทุกข์ร้อนของผู้ยากไร้และ เพื่องานการกุศลอื่นๆ การถวายทั้งสองนี้ มีแนวโน้มที่จะทำให้คนคิดคำนึงอยู่เสมอถึง สัจธรรมที่ว่า ทุกสิ่งบนโลกนี้เป็นกรรมสิทธิ์ ของพระเจ้า และพวกเขามีโอกาสเป็น ช่องทางแห่งพระพรของพระองค์ การ ถวายเป็นการฝึกฝนให้รู้จักกำจัดความ คับแคบเห็นแก่ตัวออกไป และปลูกฝัง อุปนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และสูงส่งสง่างาม– “Education.” p. 44. {MYP 305.1}

“The tithe … is the Lord’s.” Here the same form of expression is employed as in the law of the Sabbath. “The seventh day is the Sabbath of the Lord thy God.” God reserved to Himself a specified portion of man’s time and of his means, and no man could, without guilt, appropriate either for his own interests.—Patriarchs and Prophets, 525, 526.

Belongs to God
เป็นของพระเจ้า

“ทศางค์……..เป็นของพระยาห์เวห์” เลวีนิติ 27:30 เรื่องนี้ก็เหมือนเช่นพระ ดำรัสที่ตรัสเกี่ยวกับพระบัญญัติของวัน สะบาโต “แต่วันที่เจ็ดนั้นเป็นสะบาโต แด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า” อพยพ 20:10 พระเจ้าทรงสงวนเวลาและปัจจัย ส่วนหนึ่งของมนุษย์ไว้สำหรับพระองค์เอง และไม่มีมนุษย์ผู้ใดจะเอาส่วนหนึ่งส่วน ใดนี้มาจัดสรรเพื่อประโยชน์ของตนเอง โดยปราศจากความผิด–“Patriarchs and Prophets.” pp. 525, 526. {MYP 305.2}