Holiness
ความบริสุทธิ์
1. “Holiness is not rapture: it is an entire surrender of the will to God; it is living by every word that proceeds from the mouth of God; it is doing the will of our heavenly Father; it is trusting God in trial, in darkness as well as in the light; it is walking by faith and not by sight; it is relying on God with unquestioning confidence, and resting in His love.” AA 51
1. “ความบริสุทธิ์ไม่ใช่ความปลื้มปิติยินดี: มันคือการยอมมอบถวายความประสงค์ทั้งสิ้นแด่พระเจ้า คือการดำรงชีวิตโดยพระวจนะทุกคำที่ออกจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า คือการทำตามพระประสงค์ของพระบิดาในสวรรค์ของเรา คือการไว้วางใจพระเจ้าในการทดลองใจ ในความมืดและในความสว่าง คือการดำเนินโดยความเชื่อและไม่ใช่โดยสายตา; คือการพึ่งพิงในพระเจ้าด้วยความเชื่อมั่นและหยุดพักในความรักของพระองค์” AA 51
2. As Satan seeks to break down the barriers of the soul, by tempting us to indulge in sin, we must by living faith retain our connection with God, and have confidence in His strength to enable us to overcome every besetment. We are to flee from evil, and seek righteousness, meekness, and holiness….OHC 15
2. ในขณะที่ซาตานพยายามที่จะทำลายสิ่งกีดขวางของจิตวิญญาณ โดยการยั่วยวนให้พวกเราหมกมุ่นอยู่ในความบาป พวกเราจะต้องมีชีวิตอยู่ด้วยความเชื่อที่ยังคงเชื่อมต่อกับพระเจ้าและมีความเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของพระองค์ที่จะสามารถช่วยให้เราสามารถเอาชนะสิ่งทั้งปวงที่โจมตีพวกเรารอบด้าน พวกเราจะต้องหนีจากความชั่วร้าย และแสวงหาความชอบธรรม ความอ่อนโยนและความบริสุทธิ์ OHC 15
3. When the truth as it is in Jesus molds our characters, it will be seen to be truth indeed. As it is contemplated by the true believer, it will grow brighter, shining in its original beauty. As we behold it, it will increase in value, brightening in its own natural loveliness, quickening and vivifying the mind, and subduing our selfish, un-Christlike coarseness of character. It will elevate our aspirations, enabling us to reach the perfect standard of holiness. OHC 32
3. เมื่อความจริงในพระเยซูปั้นอุปนิสัยของพวกเรา นั่นจะเห็นว่าเป็นความจริงที่แน่นอน ความจริงที่ได้รับการพินิจพิจารณาโดยผู้เชื่อที่แท้จริง จะแผ่ขยายความสว่างมากขึ้น ส่องสว่างในความสวยงามตั้งแต่แรกเริ่ม ในขณะที่พวกเราเพ่งดูความจริงที่จะมีคุณค่ามากขึ้น ส่องสว่างในความรักตามธรรมชาติของตัวมันเอง ฟื้นฟูและกระตุ้นความคิด และเอาชนะความเห็นแก่ตัวของพวกเรา อุปนิสัยที่หยาบโลนไม่เหมือนกับพระคริสต์ ความจริงจะเสริมสร้างความปรารถนาของพวกเราที่ทำให้พวกเราไปถึงมาตรฐานที่สมบูรณ์แบบของความศักดิ์สิทธิ์ OHC 32
4. There is not a soul won to Christ … without defeat to the tempter, and bruising of the head of the serpent. This will arouse the malice of the adversary to greater activity…. Alarmed because he is losing his prey, Satan will first seek to deceive, next to oppress and persecute. Evil men, rebuked by the precept and example of those who come to the light of Bible truth, will become agents of the great adversary of souls and will leave no means untried to draw them away from their allegiance to God and induce them to leave the narrow path of holiness.OHC 89
4. ไม่มีวิญญาณใดที่จะเอาชนะพระคริสต์ได้ โดยไม่พ่ายแพ้ต่อผู้ล่อลวง และรอยฟกช้ำที่หัวของซาตานได้ สิ่งนี้จะกระตุ้นความอาฆาตพยาบาทของศัตรูไปสู่การกระทำที่ยิ่งใหญ่ ที่ตื่นกลัวเพราะว่ามันกำลังจะสูญเสียเหยื่อของมัน สิ่งแรกซาตานจะพยายามหลอกลวงก่อน และกดขี่ข่มแหงต่อไป มนุษย์ชั่วร้ายที่ถูกประนามด้วยคำสอนและตัวอย่างของบรรดาผู้ที่มาหาความสว่างของความจริงในพระคัมภีร์ จะกลายมาเป็นตัวแทนของศัตรูที่ยิ่งใหญ่แห่งจิตวิญญาณ และจะไม่ละทิ้งหนทางที่ไม่ได้พยายามดึงพวกเขาออกไปจากความจงรักภักดีของพวกเขาต่อพระเจ้าและนำเขาออกจากทางเดินที่แคบที่ศักดิ์สิทธิ์ OHC 89
5. The gospel must be received in order to regenerate the heart, and the reception of truth will mean the surrender of mind and will to the will of divine power. The will of man is only safe when united with the will of God. OHC 104
5. คำสั่งสอนของพระเยซูจะต้องได้รับเพื่อทำให้หัวใจได้เกิดใหม่ และการรับความจริงไว้จะหมายถึงการสละจิตใจ และมุ่งไปสู่พระประสงค์ของอำนาจพระเจ้า ความต้องการของมนุษย์จะมั่นคงก็ต่อเมื่อเป็นหนึ่งเดียวกับพระประสงค์ของพระเจ้า OHC 104
6. No man receives holiness as a birthright, or as a gift from any other human being. Holiness is the gift of God through Christ. Those who receive the Saviour become sons of God. They are His spiritual children, born again, renewed in righteousness and true holiness. Their minds are changed. With clearer vision they behold eternal realities. They are adopted into God’s family, and they become conformed to His likeness, changed by His Spirit from glory to glory. From cherishing supreme love for self, they come to cherish supreme love for God and for Christ….OHC 214
6. ไม่มีมนุษย์คนใดที่จะได้ความบริสุทธิ์เป็นสิทธิที่ได้รับตั้งแต่เกิด หรือเป็นของขวัญจากมนุษย์คนอื่นๆ ความบริสุทธิ์คือของขวัญจากพระเจ้าโดยผ่านพระคริสต์ คนเหล่านั้นที่รับเอาพระผู้ช่วยให้รอดจะเป็นบุตรของพระเจ้า พวกเขาเป็นบุตรทางฝ่ายจิตวิญญาณของพระองค์ เกิดอีกครั้ง และเริ่มต้นใหม่ด้วยความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ที่แท้จริง จิตใจของพวกเขาได้รับการเปลี่ยนแปลง พวกเขามองเห็นความเป็นจริงนิรันดร์ด้วยทัศนคติที่ชัดเจนขึ้น พวกเขาได้ถูกรับเข้าไปในครอบครัวของพระเจ้า และพวกเขาได้รับการทำให้สอดคล้องกับการเป็นเหมือนพระองค์ เปลี่ยนแปลงด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์จากสง่าราศีสู่สง่าราศี จากการยึดมั่นในการรักตนเองที่สุด พวกเขามาสู่การยึดมั่นในการรักพระเจ้าและพระคริสต์ที่สุด OHC 214
7. Sanctification is a state of holiness, without and within, being holy and without reserve the Lord’s, not in form, but in truth. Every impurity of thought, every lustful passion, separates the soul from God; for Christ can never put His robe of righteousness upon a sinner, to hide his deformity…. There must be a progressive work of triumph over evil, of sympathy with good, a reflection of the character of Jesus. We must walk in the light, which will increase and grow brighter unto the perfect day. This is real, substantial growth, which will finally attain to the full stature of men and women in Jesus Christ….OHC 214
7. การทำให้เป็นคนชอบธรรมคือสภาพของความบริสุทธิ์ ทั้งภายนอกและภายใน เป็นความศักดิ์สิทธิ์และไม่มีการสงวนขององค์พระผู้เป็นเจ้าไว้ ไม่ใช่ในรูปแบบ แต่ในความจริง ทุกๆความคิดที่ไม่บริสุทธิ์ ความหลงใหลที่เต็มไปด้วยราคะแยกวิญญาณจากพระเจ้า เพราะว่าพระคริสต์จะไม่สวมเสื้อคลุมแห่งความชอบธรรมให้แก่คนบาป เพื่อที่จะซ่อนความผิดปกติของเขา จะต้องมีการทำงานที่ก้าวหน้าของชัยชนะเหนือความชั่วร้าย ความเห็นอกเห็นใจกับสิ่งที่ดี ภาพสะท้อนของพระลักษณะนิสัยพระเยซู พวกเราจะต้องเดินในความสว่าง ซึ่งจะเพิ่มและแผ่ขยายที่สว่างขึ้นในวันที่สมบูรณ์แบบ สิ่งนี้เป็นจริง การแผ่ขยายที่มากมาย ซึ่งจะบรรลุความเป็นมนุษย์ชายและหญิงที่เต็มรูปแบบในพระเยซูคริสต์ OHC 214
8. It is a great, a solemn work to obtain a moral fitness for the society of the pure and the blest…. Only by conforming to the Word of God can we hope to come to “the measure of the stature of the fulness of Christ.” But we must do this, or we shall never enter heaven. Without purity and holiness of heart, we cannot win the crown of immortal glory. OHC 338
เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ และศักดิ์สิทธิ์ที่จะได้รับความเหมาะสมทางศีลธรรมเพื่อสังคมของความบริสุทธิ์และความสุข โดยความสอดคล้องกับพระวจนะของพระเจ้าเพียงเท่านั้นพวกเราจะสามารถมีความหวังที่จะมาถึง “ความเต็มที่ถึงขนาดความไพบูลย์ของพระคริสต์” แต่พวกเราจะต้องทำสิ่งนี้หรือพวกเราจะไม่เข้าไปยังสวรรค์ โดยไม่มีความบริสุทธิ์และความศักดิ์สิทธิ์ในหัวใจพวกเราจะชนะมงกุฏแห่งสง่าราศีชั่วนิรันดร์ไม่ได้ OHC 338