Jesus the Saviour
พระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด
“Of all professing Christians, Seventh-day Adventists should be foremost in uplifting Christ before the world.”— Gospel Workers, p. 156
“มากกว่ากลุ่มคริสเตียนอื่นใด คริสเตียนแอ๊ดเวนตีสเชิดชูพระคริสต์ขึ้นต่อชาวโลก” Gospel Workers, 156.
“The sacrifice of Christ as an atonement for sin is the great truth around which all other truths cluster. . . . This is to be the foundation of every discourse given by our ministers.”— Gospel Workers, p. 315.
การสิ้นพระชนม์เป็นเครื่องไถ่บาป คือความจริงยิ่งใหญ่และรายรอบแก่นความจริงข้อนี้ เต็มไปด้วยความจริงอื่นๆ….นี่ควรเป็นหัวใจของเรื่องเทศน์ทุกเรื่อง ที่เทศน์โดยศาสนาจารย์ของเรา” Gospel Workers, page 315.
“Jesus Christ is everything to us,—the first, the last, the best in everything. Jesus Christ, His Spirit, His character, colors everything; it is the warp and woof, the very texture of our entire being. . . . Christ is a living Saviour. Continuing to look unto Jesus, we reflect His image to all around us.”—Messages to Young People, p. 161.
“พระเยซูทรงเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเรา พระองค์เป็นคนแรก เป็นคนสุดท้าย และเป็นบุคคลดีที่สุดสำหรับทุกอย่าง พระเยซูคริสต์ พระจิตของพระองค์พระอุปนิสัยของพระองค์ จะเปลี่ยนความคิดของเราเกี่ยวกับทุกสิ่ง พระองค์เป็นส่วนสำคัญที่สุดของชีวิตเรา พระองค์เป็นเหตุผลสำหรับการมีชีวิตทั้งตัวและหัวใจของเรา…พระคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดที่ทรงพระชนม์อยู่ ขณะที่เราเชิญให้พระเยซูเข้ามาดูแลชีวิตของเรา พระฉายาของพระองค์ได้สำแดงออกทางชีวิตของเราให้ทุกคนที่อยู่รอบๆ ตัวเราได้เห็น” ข่าวประเสริฐสำหรับเยาวชน หน้า 161
“Christ as manifested to the patriarchs, as symbolized in the sacrificial service, as portrayed in the law, and as revealed by the prophets, is the riches of the Old Testament. Christ in His life, His death, and His resurrection, Christ as He is manifested by the Holy Spirit, is the treasure of the New Testament.”— Christ’s Object Lessons, p. 126.
“พระคริสต์ถูกทำให้เป็นที่รู้จักแก่ผู้นำในสมัยพระคัมภีร์ พระองค์เป็นที่ประจักษ์ในพิธีถวายบูชาในพลับพลา พระองค์เป็นที่รู้จักผ่านทางพระบัญญัติ พระองค์เป็นที่รู้จักของประชากรของพระองค์และคนอื่นๆ โดยผู้เผยพระวจนะ พระองค์เป็นที่กล่าวขวัญถึงในพระคัมภีร์เดิมชีวิตของพระคริสต์ การสิ้นพระชนม์ของพระองค์ และการกลับฟื้นคืนชีพของพระองค์เป็นสมบัติล้ำค่าของพระคัมภีร์ใหม่” Christ’s Object Lessons, p 126
Christ gave to humanity an existence out of Himself. To bring humanity into Christ, to bring the fallen race into oneness with divinity, is the work of redemption. Christ took human nature that men might be one with Him as He is one with the Father, that God may love man as He loves His only-begotten Son, that men may be partakers of the divine nature, and be complete in Him. 1 SM 250
“พระคริสต์ทรงประทานพระองค์เองให้กับมนุษย์เพื่อให้มนุษย์มีโอกาสได้ชีวิตใหม่ เพื่อนำบุคคลใหม่ไปสู่พระคริสต์ นั่นคือนำคนบาปสู่ความเป็นหนึ่งกับพระเจ้าซึ่งเป็นพันธกิจแห่งความรอด พระคริสต์ทรงรับเอาธรรมชาติของมนุษย์เพื่อมนุษย์อาจจะเป็นหนึ่งกับพระองค์เหมือนกับพระองค์เป็นหนึ่งกับพระบิดา พระองค์ทรงทำเช่นนั้น เพื่อพระเจ้าจะทรงรักมนุษย์เหมือนกับที่พระองค์ทรงรักพระบุตรองค์เดียว อีกประการหนึ่งที่พระองค์ทรงทำเช่นนั้นก็เพื่อมนุษย์อาจรับเอาธรรมชาติส่วนหนึ่งของพระเจ้าและกลายเป็นคนสมบูรณ์แบบในพระองค์” 1 SM, p 250
“The Saviour presents the virtue of His mediation before the Father, and pledges Himself to the office of personal Intercessor. By proclaiming Himself as our intercessor, He desires us to know that He places in the golden censer His merits and efficiency, that He may offer them with the sincere prayers of His people. How essential, then, that we pray much; for as our prayers ascend to the throne of God, they are mingled with the fragrance of Christ’s righteousness. Our voice is not the only voice heard. Before it reaches the ear of God, it blends with the voice of Christ, whom the Father always hears.” Manuscript Releases, vol 7, p 166
“พระผู้ช่วยให้รอด เสนอพระองค์เองต่อพระบิดาในฐานะพระมหาปุโรหิตของเราทั้งหลาย พระองค์ทรงสัญญาจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของเราในตำแหน่งมหาปุโรหิต พระเยซูประสงค์ให้เราได้ทราบว่า พระองค์ทรงทำให้การถวายบูชาของพระองค์มีผลในกระถางเผาเครื่องหอมทองคำ ในขณะที่พระองค์เผาเครื่องหอมนั้น พระองค์จะทูลอธิษฐานอย่างจริงจังเพื่อประชากรของพระองค์ไปพร้อมกัน เพื่อให้กลิ่นเครื่องหอมคละเคล้าไปพร้อมกับคำอธิษฐาน จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่เราจะต้องอธิษฐานมากๆ เพื่อให้คำอธิษฐานนั้นขึ้นไปสู่บัลลังก์ของพระเจ้า ณ ที่นั่นคำอธิษฐานของเราจะรวมกับกลิ่นหอมของความชอบธรรมของพระคริสต์ (ชีวิตบริสุทธิ์) เสียงของเราไม่ใช่เสียงเดียวที่พระเจ้าจะทรงฟัง ก่อนที่เสียงของเราจะไปถึงพระกรรณของพระเจ้าเสียงของเราไปผสานกับเสียงของพระคริสต์และพระบิดาจะทรงฟังเสียงเช่นนี้เสมอ” Manuscript Releases, vol 7, p 166
Are you in Christ? Not if you do not acknowledge yourselves erring, helpless, condemned sinners. Not if you are exalting and glorifying self. If there is any good in you, it is wholly attributable to the mercy of a compassionate Saviour. Your birth, your reputation, your wealth, your talents, your virtues, your piety, your philanthropy, or anything else in you or connected with you, will not form a bond of union between your soul and Christ. Your connection with the church, the manner in which your brethren regard you, will be of no avail unless you believe in Christ. It is not enough to believe about Him; you must believe in Him. You must rely wholly upon His saving grace. 5T 48, 49
“ท่านอยู่ในพระคริสต์หรือเปล่า ท่านไม่ได้อยู่ในพระคริสต์ ถ้าท่านไม่ยอมรับว่าท่านอ่อนแอและเป็นคนบาปที่ไร้ความหวัง ท่านไม่ได้อยู่ในพระคริสต์ ถ้าท่านเป็นผู้ให้เกียรติและยกย่องตัวเอง ถ้ามีความดีประการใดในตัวท่าน ก็เพราะท่านได้รับพระเมตตาคุณจากพระผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงเมตตาการเกิดมาของท่าน ชื่อเสียงของท่าน ทรัพย์สมบัติของท่าน ตะลันต์ความสามารถของท่าน ความดีงามของท่าน ศาสนาและความรู้สึกดีๆ ของท่านเงินทองหรือสิ่งของที่ท่านถวายเพื่องานของพระเจ้าหรือเพื่อการกุศลอื่นๆ สิ่งอื่นใดในตัวท่าน หรือเกี่ยวข้องกับตัวท่าน จะกลายเป็นโซ่ผูกพันความเป็นหนึ่งระหว่างจิตวิญญาณของท่านและพระคริสต์ แต่ความผูกพันของท่านกับโบสถ์ประการเดียวจะหาค่าไม่ได้ ถ้าท่านไม่เชื่อในพระคริสต์เป็นการไม่เพียงพอที่จะเชื่อเกี่ยวกับพระองค์ ท่านต้องเชื่อในพระองค์ ท่านจะต้องพึ่งในอำนาจการช่วยให้รอดแห่งพระคุณอย่างเต็มที่” 5T 48, 49
“The only hope for fallen man is to look to Jesus and receive Him as the only Saviour.”—Testimonies to Ministers, p. 367.
“ความหวังเดียวของชาย หญิงที่ตกลงไปในความ บาปคือการมองไปที่พระเยซูและรับเอาพระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดเท่านั้น” Testimonies to Ministers, p 367.
“Let us lift up Jesus, the Saviour of men. Talk of his love, tell of his power.”—Signs of the Times, March 18, 1889.
“ให้เรายกพระเยซูขึ้นสูง พระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยของมนุษยชาติ จงเอ่ยนามของพระองค์ และบอกให้คนอื่น ฟังถึงฤทธิอำนาจของพระองค์” Signs of the Times , March 18, 1889.
“Shall we not then exalt the cross of Christ? The angels ascribe honor and glory to Christ, for even they are not secure except by looking to the sufferings of the Son of God. It is through the efficacy of the cross that the angels of heaven are guarded from apostasy. Without the cross they would be no more secure against evil than were the angels before the fall of Satan. Angelic perfection failed in heaven. Human perfection failed in Eden, the paradise of bliss. All who wish for security in earth or heaven must look to the Lamb of God. The plan of salvation, making manifest the justice and love of God, provides an eternal safeguard against defection in unfallen worlds, as well as among those who shall be redeemed by the blood of the Lamb. Our only hope is perfect trust in the blood of Him who can save to the uttermost all that come unto God by Him. The death of Christ on the cross of Calvary is our only hope in this world, and it will be our theme in the world to come. Oh, we do not comprehend the value of the atonement! If we did, we would talk more about it. The gift of God in His beloved Son was the expression of an incomprehensible love. It was the utmost that God could do to preserve the honor of His law, and still save the transgressor.” Signs of the Times, December 30, 1889.
อย่างนี้เราจะไม่ถวายสง่าราศีให้กับไม้กางเขนแห่งพระคริสต์หรือ? เหล่าทูตสวรรค์ถวายสง่าราศีให้กับพระคริสต์ แม้ว่าพวกเขาไม่ได้รับความรอด เว้นแต่ได้มองเห็นความทุกข์เจ็บปวดรวดร้าวของพระบุตรของพระเจ้า ผ่านทางงานรับใช้อันเสียสละแห่งไม้กางเขนทำให้เหล่าทูตแห่งฟ้าสวรรค์ได้รับการปกป้องไม่ให้เหินห่างไปจากพระเจ้า ถ้าปราศจากไม้กางเขน พวกเขา คงไม่ปลอดภัยจากอำนาจของซาตาน มากไปกว่าเหล่าทูตสวรรค์จำนวนมากก่อนได้หลงไปตามเล่ห์กลของซาตาน ลองคิดดูเหล่าทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์ยังล้มลงในสวรรค์ มนุษย์ผู้สมบรูณ์พร้อมในอุทยาน เอเดนยังล้มลง ทั้งๆ อาศัยอยู่ในบ้านอันแสนสุข ดังนั้นเหล่าผู้ประสงค์ความปลอดภัยในแผ่นดินโลกหรือแผ่นดินสวรรค์จะต้องมองไปยังลูกแกะของพระเจ้า แผนการแห่งความรอดบอกไว้ชัดเจนในความเที่ยงธรรมและความรักของพระเจ้า อีกทั้งยังให้การปกป้องต่อการหลงหายในโลกที่ยังไม่ล้มลง และท่ามกลางเหล่าผู้ที่จะได้รับความรอดโดยเลือดของลูกแกะของพระเจ้า ความหวังเดียวที่สมบูรณ์คือการไว้วางใจในพระโลหิตของพระเยซู ผู้ซึ่งสามารถให้โอกาสดีที่สุดด้านความปลอดภัยในพระเจ้าผ่านทางพระองค์ การสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์บนไม้กางเขน แห่งคาลวารีเป็นความหวังเพียงประการเดียวของเราในโลกนี้ และนี่จะเป็นหัวข้อในโลกใหม่ที่จะมาถึงด้วย โอ เหตุใดหนอเราจึงไม่เข้าใจในคุณค่าของการถวายบูชาไถ่บาป! ถ้าเราเข้าใจ เราควรจะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น ของประทานของพระเจ้าผ่านทางพระบุตรที่รักของพระองค์เป็นตัวอย่างแห่งความรัก ที่เราไม่อาจเข้าใจได้เต็มเปี่ยม นี่เป็นเส้นทางดีที่สุดที่พระเจ้าอาจช่วยเราไว้ได้ ขณะเดียวกันยังให้เกียรติกับพระบัญญัติของพระองค์ นั่นคือยังช่วยคนบาปไว้ให้ปลอดภัยได้” Signs of the Times, December 30, 1889.