Chapter 70 (บทที่ 70)
Faithfulness in Service
ความซื่อสัตย์ในการรับใช้

Those who are unfaithful in the least of temporal affairs will be unfaithful in responsibilities of greater importance. They will rob God, and fail of meeting the claims of the divine law. They will not realize that their talents belong to God and should be devoted to His service. Those who do nothing for their employers except that which is commanded them, when they know that the prosperity of the work depends on some extra exertion on their part, will fail to be accounted faithful servants. There are many things not specified that wait to be done, that come directly under the notice of the one employed. {MYP 228.1}

ผู้ใดที่ไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องเล็กน้อย ที่สุดของทางโลกก็จะไม่ซื่อสัตย์ต่อความ รับผิดชอบที่มีความสาคัญมากกว่านั้น คนเหล่านี้จะเอาเปรียบพระเจ้าและไม่อาจ ปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระเจ้า พวก เขาจะไม่คานึงว่าความสามารถของตนเป็น ของพระเจ้าเพื่ออุทิศให้กับพระราชกิจ ของพระองค์ ผู้ใดที่ไม่ยอมทาหน้าที่อื่น นอกจากเรื่องที่ผู้ว่าจ้างสั่งให้ทา แม้จะรู้ว่า หากเขาลงแรงทาเพิ่มจะเป็นประโยชน์ต่อ งานนั้น ก็ไม่ใช่ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ มีงานอื่น อีกมากมายที่ต้องทาซึ่งนายจ้างไม่ได้ระบุ ไว้อยู่ตรงหน้าและอยู่ในวิสัยที่ผู้รับหน้าที่นี้ จะสังเกตเห็น {MYP 228.1}

Leaks and losses occur that might be prevented if painstaking diligence and unselfish effort were manifested, if the principles of love enjoined upon us by Jesus were carried out in the life of those who profess His name. But many are working in the cause of God who are registered as “eye-servants.” {MYP 228.2}

การรั่วไหลและการสูญเสียจะถูก ป้องกันได้ หากเราแสดงออกถึงการทุ่มเท อย่างขยันขันแข็งและลงแรงพยายามอย่าง ไม่เห็นแก่ตัวและหากหลักการแห่งความ รักที่พระเยซูทรงบัญชาให้เรานั้นถูกนามา ปฏิบัติในชีวิตของผู้ซึ่งแสดงตนว่าเป็นผู้ ติดตามพระองค์ แต่มีคนมากมายที่กาลัง ทางานเพื่อพระเจ้าผู้ซึ่งถูกลงทะเบียน ไว้ว่าเป็นเพียงแค่ “ผู้รับใช้ทางสายตา” {MYP 228.2}

It is the most abhorrent form of selfishness that leads the worker to neglect the improvement of time, the care of property, because he is not directly under the eye of the master. But do such workers imagine that their neglects are not noticed, their unfaithfulness not recorded? Could their eyes be opened, they would see that a Watcher looks on, and all their carelessness is recorded in the books of heaven. {MYP 228.3}

Unfaithfulness Recorded
ควำมไม่ซื่อสัตย์ถูกบันทึกไว้แล้ว

ความเห็นแก่ตัวที่น่าเกลียดชังที่สุด รูปแบบหนึ่งที่ทาให้คนทางานละเลยการ ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ละเลยการดูแล รักษาทรัพย์สินของนายจ้างให้เรียบร้อย เพราะนายจ้างไม่ได้มาเฝ้าติดตามดูเขา แต่คนงานเช่นนี้ควรคิดหรือว่าการละเลย ของพวกเขาไม่มีใครเห็นและความไม่ ซื่อสัตย์ของเขาไม่ได้ถูกบันทึกไว้ หากตา ของพวกเขาจะเปิดออก พวกเขาจะมอง เห็นว่ามีพระเจ้าผู้เฝ้าองค์หนึ่งกาลังจับตา มองอยู่ และความเลินเล่อของพวกเขาถูก บันทึกไว้ในสมุดแห่งสวรรค์ {MYP 228.3}

Those who are unfaithful to the work of God are lacking in principle; their motives are not of a character to lead them to choose the right under all circumstances. The servants of God are to feel at all times that they are under the eye of their employer. He who watched the sacrilegious feast of Belshazzar is present in all our institutions, in the counting-room of the merchant, in the private workshop; and the bloodless hand is as surely recording your neglect as it recorded the awful judgment of the blasphemous king. Belshazzar’s condemnation was written in words of fire, “Thou art weighed in the balances, and art found wanting”; and if you fail to fulfill your God-given obligations your condemnation will be the same. {MYP 229.1}

ผู้ที่ไม่สัตย์ซื่อต่องานการรับใช้ พระเจ้าเป็นผู้ที่ขาดหลักการ แรงจูงใจ ของพวกเขาไม่ได้เกิดจากคุณลักษณะที่ นาเขาให้ตัดสินใจทาในสิ่งที่ถูกต้องในทุก สถานการณ์ ผู้รับใช้พระเจ้าทุกคนต้อง ตระหนักอยู่ตลอดเวลาว่านายจ้างของเขา กาลังจับตามองเขาอยู่ พระองค์ผู้ทรงเฝ้าดู งานเลี้ยงฉลองอัปยศของกษัตริย์เบลซัสซาร์ ที่เหยียบย่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทรงปรากฏอยู่ใน ทุกสถาบันของเราเช่นกัน ในห้องนับเงิน ของพ่อค้า ในห้องทางานส่วนตัวและ องค์ผู้บริสุทธิ์กาลังบันทึกการปล่อยปละ ละเลยหน้าที่ของคุณเช่นเดียวกับที่พระองค์ ทรงบันทึกการลบหลู่ของกษัตริย์องค์นั้น พระองค์ทรงลงโทษกษัตริย์เบลซัสซาร์ ด้วยข้อความเพลิงที่ปรากฏบนกาแพง “ฝ่าพระบาทได้ถูกชั่งในตราชู ทรงเห็นว่า ยังขาดอยู่” ดาเนียล 5:27 หากคุณละเลย ข่าวประเสริฐสาหรับเยาวชน ที่จะทาให้ภารกิจที่พระเจ้าประทานให้ บรรลุความสาเร็จ คุณก็จะต้องรับโทษเช่น เดียวกัน {MYP 229.1}

There are many who profess to be Christians who are not united with Christ. Their daily life, their spirit, testifies that Christ is not formed within, the hope of glory. They cannot be depended upon, they cannot be trusted. They are anxious to reduce their service to the minimum of effort, and at the same time exact the highest of wages. The name “servant” applies to every man; for we are all servants, and it will be well for us to see what mold we are taking on. Is it the mold of unfaithfulness, or of fidelity? {MYP 229.2}

True Motives in Service
แรงจูงใจที่แท้จริงในกำรรับใช้

มีคนมากมายที่อ้างว่าตนเป็น คริสเตียนเป็นผู้ซึ่งไม่เข้าเป็นหนึ่งเดียวกับ พระคริสต์ ชีวิตประจาวันและจิตวิญญาณ ของคนเหล่านี้เป็นพยานว่าพวกเขาไม่มี พระคริสต์ และไม่มีความหวังในพระสิริ ของพระองค์อยู่ในใจของพวกเขา พวกเขา เป็นคนพึ่งพาไม่ได้ ไว้วางใจไม่ได้ พวกเขา ร้อนรนที่จะลดงานของการรับใช้ให้ลงแรง น้อยที่สุด แต่ขณะเดียวกัน เรียกร้องค่า จ้างที่สูงที่สุด สมญานามว่า “ผู้รับใช้” เป็น ของทุกคน เพราะเราทุกคนต่างเป็นผู้รับ ใช้ และจะเป็นการดีไม่น้อยสาหรับเราที่จะ มองดูว่าตนเองนั้นสวมบทบาทผู้รับใช้จาก เบ้าหลอมรูปแบบใด จากเบ้าหลอมของ ความไม่ซื่อสัตย์หรือของความจงรักภักดี {MYP 229.2}

Is it the disposition generally among servants to do as much as possible? Is it not rather the prevalent fashion to slide through the work as quickly, as easily, as possible, and obtain the wages at as little cost to themselves as they can? The object is not to be as thorough as possible but to get the remuneration. Those who profess to be the servants of Christ should not forget the injunction of the apostle Paul, “Servants, obey in all things your masters according to the flesh; not with eyeservice, as menpleasers; but in singleness of heart, fearing God: and whatsoever ye do, do it heartily, as to the Lord, and not unto men; knowing that of the Lord ye shall receive the reward of the inheritance: for ye serve the Lord Christ.” {MYP 229.3}

โดยทั่วไป คนงานจะมีนิสัยรักการ ทางานให้มากที่สุดเท่าที่จะทาได้ใช่ไหม หรือว่ารีบเร่งทางานให้เสร็จอย่างลวกๆ อย่างรวบรัดให้มากที่สุดเท่าที่จะทาได้ เพื่อให้ได้ค่าจ้างแบบใช้แรงงานน้อยที่สุด ใช่ไหม เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่ทางานอย่าง ละเอียดรอบคอบ แต่เพียงต้องการค่า ตอบแทน ผู้ซึ่งอ้างตนว่าเป็นผู้รับใช้ พระคริสต์ไม่ควรลืมคาตักเตือนของอัครทูต เปาโลที่ว่า “ทาสทั้งหลายจงเชื่อฟังน ายของตนในโลกนี้ทุกอย่าง ไม่เฉพาะแต่ เมื่ออยู่ในสายตาเหมือนอย่างพวกประจบ สอพลอ แต่ทาด้วยจริงใจโดยความเกรง กลัวองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ว่าพวกท่านจะ ทาสิ่งใด ก็จงทาด้วยความเต็มใจเหมือน ทาถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่เหมือนทา ต่อมนุษย์ ท่านทั้งหลายก็รู้ว่า ท่านจะได้รับ มรดกจากองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นบาเหน็จ เพราะท่านกาลังรับใช้พระคริสต์องค์พระผู้ เป็นเจ้าอยู่” โคโลสี 3:22-24 {MYP 229.3}

Those who enter the work as “eye-servants,” will find that their work cannot bear the inspection of men or of angels. The thing essential for successful work is a knowledge of Christ; for this knowledge will give sound principles of right, impart a noble, unselfish spirit, like that of our Saviour whom we profess to serve. Faithfulness, economy, care-taking, thoroughness, should characterize all our work, wherever we may be, whether in the kitchen, in the workshop, in the office of publication, in the sanitarium, in the college, or wherever we are stationed in the vineyard of the Lord. “He that is faithful in that which is least is faithful also in much: and he that is unjust in the least is unjust also in much.”–Review and Herald, September 22, 1891. (232) {MYP 230.1}

คนที่ทางานแบบ “ผู้รับใช้ด้วย สายตา” จะได้ผลงานที่ไม่ผ่านการตรวจ สอบของมนุษย์หรือของทูตสวรรค์ แก่น แท้ของความสาเร็จของงานอยู่ที่ความรู้ เกี่ยวกับพระคริสต์ เพราะความรู้นี้จะให้ หลักการมั่นคงของสิทธิอานาจที่ก่อให้เกิด จิตวิญญาณอันสูงส่งไร้ความเห็นแก่ตัว เป็นเหมือนพระผู้ช่วยให้รอดของเราผู้ซึ่ง เราอ้างว่ารับใช้อยู่ งานทั้งปวงของเราควร มีลักษณะของความซื่อสัตย์ ประหยัดไม่ สิ้นเปลือง ดูแลเอาใจใส่ ละเอียดรอบคอบ ไม่ว่าเราจะทางานในสถานที่ใด ในห้องครัว ในโรงงาน ในสานักพิมพ์ ในสถานีอนามัย ในวิทยาลัยหรือในทุกแห่งหนที่เราต้องไป ประจาการปฏิบัติหน้าที่รับใช้องค์พระผู้เป็น เจ้า “คนที่ซื่อสัตย์ในของเล็กน้อยจะซื่อสัตย์ ในของมากด้วย และคนที่ไม่ซื่อสัตย์ในของ เล็กน้อย จะไม่ซื่อสัตย์ในของมากเช่นกัน” ลูกา 16:10–The Review and Herald, September 22, 1891. {MYP 230.1}

Since the mind and the soul find expression through the body, both mental and spiritual vigor are in great degree dependent upon physical strength and activity; whatever promotes physical health promotes the development of a strong mind and a well-balanced character. Without health, no one can as distinctly understand or as completely fulfill his obligations to himself, to his fellow-beings, or to his Creator. Therefore the health should be as faithfully guarded as the character. A knowledge of physiology and hygiene should be the basis of all educational effort.–“Education,” p. 195. {MYP 232.1}

เนื่องจากจิตใจและจิตวิญญาณจะหาทางแสดงความรู้สึก ออกมาผ่านทางร่างกาย ทั้งจิตใจและจิตวิญญาณจึงต้องพึ่งพา ความแข็งแรงและกิจกรรมของร่างกายเป็นหลัก ทุกสิ่งที่ส่งเสริม ความแข็งแรงทางกายภาพก็จะส่งเสริมการพัฒนาจิตใจให้แข็ง แรงและมีลักษณะนิสัยที่สมดุล หากปราศจากสุขภาพที่แข็งแรง แล้ว ไม่มีผู้ใดเลยจะเข้าใจอย่างถ่องแท้หรือปฏิบัติหน้าที่ของเขาต่อ ตนเอง ต่อผู้อื่น หรือต่อพระผู้สร้างของเขาได้อย่างครบถ้วน ดังนั้น เราจึงควรปกป้องรักษาสุขภาพของเราอย่างซื่อสัตย์เหมือนที่ทากับ อุปนิสัย ความรู้ด้านสรีรวิทยาและสุขอนามัยจึงควรเป็นพื้นฐานของ การศึกษาทั้งปวง–“Education,” p. 195. {MYP 232.1}