Chapter 32 (บทที่ 32)
“The Child”
“บุตร”

Not only the habits of the mother, but the training of the child were included in the angel’s instruction to the Hebrew parents. It was not enough that Samson, the child who was to deliver Israel, should have a good legacy at his birth. This was to be followed by careful training. From infancy he was to be trained to habits of strict temperance. {MH 379.1}

ไม่เพียงเฉพาะการปฏิบัติตัวของมารดาเท่านั้นแต่วิธีการอบรมสั่งสอนบุตรยังถูกรวมไว้ในคำแนะนำของทูตสวรรค์ที่ได้มอบให้แก่บิดามารดาชาวฮีบรูอีกด้วย การถือกำเนิดมาด้วยลักษณะอันดียังไม่เพียงพอสำหรับแซมสันผู้ที่จะปลดปล่อยชนชาติอิสราเอล แต่หลังจากนั้น เขายังต้องได้รับการอบรมสั่งสอนอย่างเอาใจใส่อีกด้วย ตั้งแต่ยังเป็นทารก เขาได้รับการอบรมบ่มนิสัยอย่างเคร่งครัดให้รู้จักบังคับใจตัวเองด้วย {MH 379.1}

Similar instruction was given in regard to John the Baptist. Before the birth of the child, the message sent from heaven to the father was: {MH 379.2}

ทูตสวรรค์ยังได้ให้คำแนะนำในลักษณะเดียวกันแก่บิดาของยอห์นผู้ให้รับบัพติศมา ก่อนที่ยอห์นจะถือกำเนิดนั้น ทูตสวรรค์ได้ปรากฏแก่บิดาของยอห์นและได้กล่าวว่า {MH 379.2}

“Thou shalt have joy and gladness; and many shall rejoice at his birth. For he shall be great in the sight of the Lord, and he shall drink no wine nor strong drink; and he shall be filled with the Holy Spirit.” Luke 1:14, 15, A.R.V. {MH 379.3}

“ท่านจะมีความปรีดาและยินดี และคนเป็นอันมากจะเปรมปรีดิ์ที่บุตรนั้นบังเกิดมา เพราะว่าเขาจะเป็นใหญ่จำเพาะพระเจ้า เขาจะไม่กินน้ำองุ่นหมักและเหล้าเลย และจะประกอบไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตั้งแต่ครรภ์มารดา” ลูกา 1:14, 15 {MH 379.3}

On heaven’s record of noble men the Saviour declared that there stood not one greater than John the Baptist. The work committed to him was one demanding not only physical energy and endurance, but the highest qualities of mind and soul. So important was right physical training as a preparation for this work that the highest angel in heaven was sent with a message of instruction to the parents of the child. {MH 379.4}

พระผู้ช่วยให้รอดตรัสว่า ในบรรดาผู้ชอบธรรมที่มีชื่ออยู่ในแผ่นดินสวรรค์ ไม่มีผู้ใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่ายอห์นผู้ให้รับบัพติศมา งานที่พระเจ้าทรงมอบหมายให้เขาทำนั้นไม่เพียงแต่ต้องใช้กำลังกายและความอดทนเท่านั้น แต่ยังต้องใช้ความคิดสติปัญญาที่เฉียบแหลมและจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว การอบรมสั่งสอนที่ถูกต้องในด้านของร่างกายเพื่อให้ยอห์นได้เตรียมตัวพร้อมสำหรับงานนี้จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก พระเจ้าจึงทรงส่งทูตสวรรค์ที่มีตำแหน่งสูงสุดให้มาชี้แจงแก่เศคาริยาห์ผู้เป็นบิดาให้ทราบถึงวิธีการอบรมเลี้ยงดูบุตรนั้น {MH 379.4}

The directions given concerning the Hebrew children teach us that nothing which affects the child’s physical well-being is to be neglected. Nothing is unimportant. Every influence that affects the health of the body has its bearing upon mind and character. {MH 380.1}

คำแนะนำที่พระเจ้าประทานเกี่ยวกับลูกหลานชาวฮีบรูนั้น สอนเราไม่ให้ละเลยสิ่งใดๆ ที่จะมีผลต่อสุขภาพกายของเด็กๆ ไม่มีสิ่งใดที่ไม่สำคัญ อิทธิพลทุกอย่างที่มีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายมีผลต่อจิตใจและอุปนิสัยด้วย {MH 380.1}

Too much importance cannot be placed upon the early training of children. The lessons learned, the habits formed, during the years of infancy and childhood, have more to do with the formation of the character and the direction of the life than have all the instruction and training of after years. {MH 380.2}

การอบรมสั่งสอนเด็กในระยะแรกนั้นมีความสำคัญมาก สิ่งที่ได้เรียนรู้และนิสัยที่ก่อร่างสร้างขึ้นในช่วงวัยทารกและวัยเด็กมีผลต่อการหล่อหลอมอุปนิสัยและมีผลต่อทิศทางของชีวิตที่เขาจะดำเนินไปได้มากกว่าการอบรมสั่งสอนทั้งปวงที่ได้รับในภายหลัง {MH 380.2}

Parents need to consider this. They should understand the principles that underlie the care and training of children. They should be capable of rearing them in physical, mental, and moral health. Parents should study the laws of nature. They should become acquainted with the organism of the human body. They need to understand the functions of the various organs, and their relation and dependence. They should study the relation of the mental to the physical powers, and the conditions required for the healthy action of each. To assume the responsibilities of parenthood without such preparation is a sin. {MH 380.3}

บิดามารดาจำเป็นต้องใส่ใจในเรื่องนี้ให้มาก พวกเขาควรจะเข้าใจถึงหลักการพื้นฐานของการอบรมเลี้ยงดูบุตร บิดามารดาควรสามารถอบรมเลี้ยงดูบุตรให้เจริญเติบโตในด้านร่างกาย สติปัญญาและ ศีลธรรมจรรยาอันดี บิดามารดาควรศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับกฎแห่งธรรมชาติ ควรมีความคุ้นเคยกับอวัยวะต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ บิดามารดาจำเป็นต้องเข้าใจถึงหน้าที่การทำงานของอวัยวะต่างๆ รวมทั้งความเกี่ยวข้องและการพึ่งพากันในการทำงาน ควรเรียนรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างกันของร่างกายและจิตใจ และเรียนรู้ถึงสภาวะที่จำเป็นต่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพของร่างกายและจิตใจ การรับภาระหน้าที่การเป็นบิดามารดาโดยไม่ได้เตรียมตัวถือว่าเป็นความผิดบาป {MH 380.3}

Far too little thought is given to the causes underlying the mortality, the disease and degeneracy, that exist today even in the most civilized and favored lands. The human race is deteriorating. More than one third die in infancy; [THE STATEMENT CONCERNING INFANT MORTALITY WAS CORRECT AT THE TIME IT WAS WRITTEN IN 1905. HOWEVER, MODERN MEDICINE AND PROPER CHILD CARE HAVE GREATLY REDUCED THE MORTALITY RATE IN INFANCY AND CHILDHOOD.–PUBLISHERS.] of those who reach manhood and womanhood, by far the greater number suffer from disease in some form, and but few reach the limit of human life. {MH 380.4}

การคำนึงถึงสาเหตุเบื้องหลังของความตายได้รับความสนใจน้อยเกินไป โรคภัยไข้เจ็บและสภาพที่เสื่อมทรามที่ปรากฏอยู่ทุกวันนี้ แม้ในอารยะประเทศที่เจริญรุ่งเรือง มนุษยชาติกำลังเสื่อมถอยลง มนุษย์มากกว่าหนึ่งในสามตายตั้งแต่ยังเป็นทารก [อัตราการตายของทารกเป็นสถิติที่ถูกต้องซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปีค.ศ. 1905 ที่หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนขึ้น อย่างไรก็ตามด้วยการแพทย์สมัยใหม่และการดูแลบุตรอย่างถูกต้องเหมาะสมได้ทำให้อัตราการตายนี้ลดลงมากในปัจจุบัน: ผู้จัดพิมพ์] ส่วนผู้ที่เติบโตขึ้นจนเป็นผู้ใหญ่ ส่วนมากมักจะป่วยเป็นโรคใดโรคหนึ่ง และมีน้อยคนที่จะมีชีวิตอยู่จนถึงอายุขัยที่แท้จริงของมนุษย์ {MH 380.4}

Most of the evils that are bringing misery and ruin to the race might be prevented, and the power to deal with them rests to a great degree with parents. It is not a “mysterious providence” that removes the little children. God does not desire their death. He gives them to the parents to be trained for usefulness here, and for heaven hereafter. Did fathers and mothers do what they might to give their children a good inheritance, and then by right management endeavor to remedy any wrong conditions of their birth, what a change for the better the world might see! {MH 380.5}

ความชั่วร้ายส่วนใหญ่ที่นำความทุกข์ลำบากและความพินาศมาสู่มนุษย์นั้นสามารถป้องกันได้ และบิดามารดามีหน้าที่สำคัญที่ต้องรับมือกับความชั่วร้ายเหล่านี้ มันไม่ใช่ปรากฎการณ์ลึกลับที่กำจัดเด็กน้อยเหล่านี้ไป พระเจ้าไม่ประสงค์ความตายของเด็กเหล่านี้ พระองค์ประทานบุตรเหล่านี้ให้บิดามารดาอบรมเลี้ยงดูเพื่อให้บุตรทั้งหลายได้ทำตนเป็นประโยชน์ทั้งในโลกนี้และในแผ่นดินสวรรค์ในภายภาคหน้า ถ้าบิดามารดาปฏิบัติตามแบบแผนที่พระเจ้าทรงวางไว้ บุตรก็จะถือกำเนิดมาด้วยลักษณะอันดี จากนั้นบิดามารดาก็ต้องทำหน้าที่ของตนให้ถูกต้องเหมาะสมโดยพยายามหาหนทางเแก้ไขลักษณะที่ไม่ดีที่ติดตัวบุตรมา หากทำได้เช่นนี้ ความเปลี่ยนแปลงไปสู่สภาพที่ดีขึ้นปานใดที่ชาวโลกจะมองเห็น {MH 380.5}

The Care of Infants The more quiet and simple the life of the child, the more favorable it will be to both physical and mental development. At all times the mother should endeavor to be quiet, calm, and self-possessed. Many infants are extremely susceptible to nervous excitement, and the mother’s gentle, unhurried manner will have a soothing influence that will be of untold benefit to the child. {MH 381.1}

การดูแลเด็กทารก เด็กที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยิ่งสงบและเรียบง่ายมากเท่าใด ก็จะเป็นการส่งเสริมให้พวกเขามีพัฒนาการในด้านร่างกายและสติปัญญามากขึ้นเท่านั้น ตลอดเวลา มารดาควรพยายามทำจิตใจให้สงบ สุขุมเยือกเย็นและมีสติที่มั่นคงอยู่เสมอ เด็กเล็กๆ มากมายไวต่อความตื่นเต้นและตกใจได้ง่าย แต่กริยาที่สุภาพอ่อนโยนและอารมณ์ที่สงบเยือกเย็นของมารดา จะช่วยระงับความตกใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กมากเกินที่จะกล่าวได้ {MH 381.1}

Babies require warmth, but a serious error is often committed in keeping them in overheated rooms, deprived to a great degree of fresh air. The practice of covering the infant’s face while sleeping is harmful, since it prevents free respiration. {MH 381.2}

เด็กทารกต้องการความอบอุ่น แต่บางคนมักจะเข้าใจผิดอย่างมหันต์โดยการนำเด็กไปไว้ในห้องที่ร้อนเกินไปและขาดอากาศบริสุทธิ์ การใช้ผ้าคลุมใบหน้าของทารกในขณะที่หลับนั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะทำให้หายใจไม่สะดวก {MH 381.2}

The baby should be kept free from every influence that would tend to weaken or to poison the system. The most scrupulous care should be taken to have everything about it sweet and clean. While it may be necessary to protect the little ones from sudden or too great changes of temperature, care should be taken, that, sleeping or waking, day or night, they breathe a pure, invigorating atmosphere. {MH 381.3}

เราต้องคอยระวังไม่ให้ทารกได้รับผลกระทบทุกรูปแบบที่จะบั่นทอนหรือให้โทษต่อร่างกาย เราต้องคอยดูแลเอาใจใส่อย่างระมัดระวังเพื่อให้ทุกสิ่งที่อยู่โดยรอบเด็กมีความสะอาดและสดชื่น ในขณะเดียวกัน บิดามารดาจำเป็นต้องคอยป้องกันเด็กเล็กๆ จากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างกะทันหันหรือแตกต่างกันมาก และคอยดูแลให้เด็กหายใจแต่อากาศบริสุทธิ์และสดชื่นทั้งในเวลาหลับหรือตื่น ในเวลากลางวันหรือกลางคืน {MH 381.3}

In the preparation of the baby’s wardrobe, convenience, comfort, and health should be sought before fashion or a desire to excite admiration. The mother should not spend time in embroidery and fancywork to make the little garments beautiful, thus taxing herself with unnecessary labor at the expense of her own health and the health of her child. She should not bend over sewing that severely taxes eyes and nerves, at a time when she needs much rest and pleasant exercise. She should realize her obligation to cherish her strength, that she may be able to meet the demands that will be made upon her. {MH 381.4}

ในการจัดเตรียมเสื้อผ้าสำหรับทารกนั้น เสื้อผ้าชนิดที่สวมใส่ได้สบายและถูกสุขลักษณะมีความเหมาะสมมากกว่าความทันสมัยหรือเพื่อเรียกร้องคำชม มารดาไม่ควรใช้เวลาไปกับการเย็บปักถักร้อยหรือเติมแต่งสีสันให้เสื้อผ้าตัวน้อยเพื่อความสวยงาม หักโหมตนเองด้วยแรงงานที่ไม่จำเป็นบนความเสี่ยงต่อสุขภาพทั้งของมารดาและของบุตร มารดาไม่ควรใช้สายตาและประสาทมากเกินไปกับการนั่งก้มหน้าก้มตาตัดเย็บเสื้อผ้า แทนที่จะใช้เวลาในการพักผ่อนและการออกกำลังกายที่เพลิดเพลิน มารดาควรตระหนักถึงภาระหน้าที่ที่ต้องถนอมกำลังเรี่ยวแรงไว้ใช้สำหรับเลี้ยงดูบุตรต่อไป {MH 381.4}

If the dress of the child combines warmth, protection, and comfort, one of the chief causes of irritation and restlessness will be removed. The little one will have better health, and the mother will not find the care of the child so heavy a tax upon her strength and time. {MH 382.1}

ถ้าเสื้อผ้าของเด็กมีทั้งความอบอุ่น การปกป้องร่างกายและความสบาย เด็กจะไม่มีอาการหงุดหงิดหรือร้องกวนโยเย บุตรจะมีสุภาพที่ดีขึ้น และผู้เป็นมารดาจะไม่รู้สึกว่าการคอยดูแลเอาใจใส่บุตรนั้นเป็นภาระหนักที่ต้องใช้กำลังเรี่ยวแรงและเวลามากมายเกินไป {MH 382.1}

Tight bands or waists hinder the action of the heart and lungs, and should be avoided. No part of the body should at any time be made uncomfortable by clothing that compresses any organ or restricts its freedom of movement. The clothing of all children should be loose enough to admit of the freest and fullest respiration, and so arranged that the shoulders will support its weight. {MH 382.2}

เสื้อผ้าที่มีขอบยางรัดแน่นหรือเสื้อผ้าที่มีเอวคับขัดขวางการทำงานของหัวใจและปอด สมควรจะหลีกเลี่ยง ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม เสื้อผ้าที่สวมใส่ต้องไม่สร้างความอึดอัดด้วยการบีบรัดอวัยวะใดๆ หรือจำกัดการเคลื่อนไหว เสื้อผ้าสำหรับเด็กทุกคนควรมีความหลวมพอให้หายใจได้อย่างสะดวกและเต็มที่และต้องออกแบบให้ไหล่เป็นส่วนที่รับน้ำหนักของเสื้อผ้า {MH 382.2}

In some countries the custom of leaving bare the shoulders and limbs of little children still prevails. This custom cannot be too severely condemned. The limbs being remote from the center of circulation, demand greater protection than the other parts of the body. The arteries that convey the blood to the extremities are large, providing for a sufficient quantity of blood to afford warmth and nutrition. But when the limbs are left unprotected or are insufficiently clad, the arteries and veins become contracted, the sensitive portions of the body are chilled, and the circulation of the blood hindered. {MH 382.3}

ในบางประเทศยังมีธรรมเนียมปฏิบัติที่นิยมแต่งกายเด็กโดยปล่อยให้บ่าและแขนขาของเด็กเล็กเปลือยเปล่า ธรรมเนียมนี้ถือว่าเป็นวิธีการปฏิบัติที่ผิด แขนขาเป็นอวัยวะที่อยู่ห่างจากหัวใจซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของระบบไหลเวียนโลหิต จึงต้องการการปกป้องมากกว่าอวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกาย เส้นโลหิตแดงที่ลำเลียงโลหิตไปยังอวัยวะส่วนปลายบริเวณแขนขามีขนาดใหญ่เพื่อเก็บโลหิตในปริมาณที่เพียงพอในการหล่อเลี้ยงร่างกายให้มีความอบอุ่นและได้รับสารอาหาร แต่เมื่อแขนขาไม่มีสิ่งใดคอยปกป้องหรือปกคลุม เส้นโลหิตแดงและเส้นโลหิตดำจะเกิดการหดตัว อวัยวะที่ไวต่อการสัมผัสจึงเย็นและชาและไปขัดขวางการไหลเวียนของโลหิต {MH 382.3}

In growing children all the forces of nature need every advantage to enable them to perfect the physical frame. If the limbs are insufficiently protected, children, and especially girls, cannot be out of doors unless the weather is mild. So they are kept in for fear of the cold. If children are well clothed, it will benefit them to exercise freely in the open air, summer or winter. {MH 382.4}

ในเด็กที่กำลังเจริญเติบโต ทุกส่วนของร่างกายต้องการปัจจัยทุกด้านเพื่อการเสริมสร้างโครงร่างที่สมบูรณ์แบบ ถ้าแขนขาไม่มีเสื้อผ้าปกคลุมอย่างเพียงพอ เด็กๆ โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงจะออกไปเล่นนอกบ้านไม่ได้ นอกเสียจากอากาศจะอบอุ่น ดังนั้นเด็กเหล่านี้จึงถูกกักตัวไว้ในบ้านเพราะกลัวจะถูกอากาศเย็น แต่ถ้าเด็กๆ ได้สวมเสื้อผ้าให้เหมาะสม ก็จะเป็นประโยชน์ เพราะสามารถไปออกกำลังกายอย่างเต็มที่ได้ในกลางแจ้งไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อนหรือฤดูหนาวก็ตาม {MH 382.4}

Mothers who desire their boys and girls to possess the vigor of health should dress them properly and encourage them in all reasonable weather to be much in the open air. It may require effort to break away from the chains of custom, and dress and educate the children with reference to health; but the result will amply repay the effort. {MH 382.5}

มารดาที่ปรารถนาจะให้บุตรชายหญิงมีร่างกายที่แข็งแรงควรแต่งกายให้บุตรธิดาของตนอย่างถูกต้อง และสนับสนุนให้ทุกคนออกไปเล่นกลางแจ้งกันบ่อยๆ ในเวลาที่อากาศเหมาะสม การจะสลัดให้หลุดพ้นจากธรรมเนียมปฏิบัติย่อมต้องอาศัยความเพียรพยายาม การแต่งกายและการอบรมสั่งสอนลูกๆ เกี่ยวกับสุขภาพ แต่ผลที่ได้รับนั้นจะตอบแทนความพยายามที่ได้ทุ่มเทลงไปอย่างคุ้มค่า {MH 382.5}

The Child’s Diet The best food for the infant is the food that nature provides. Of this it should not be needlessly deprived. It is a heartless thing for a mother, for the sake of convenience or social enjoyment, to seek to free herself from the tender office of nursing her little one. {MH 383.1}

อาหารการกินของเด็ก อาหารที่ดีที่สุดสำหรับเด็กอ่อนก็คือ น้ำนมของมารดาซึ่งเป็นอาหารที่ธรรมชาติจัดสรรให้ เด็กเหล่านี้ไม่ควรถูกตัดสิทธิ์นี้ไปโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร มันเป็นเรื่องโหดร้ายที่มารดาบางคนเห็นแก่ความสะดวกสบายหรือเห็นแก่ความสนุกสนานในการเข้าสังคม ยอมละทิ้งการให้นมของตนเองแก่บุตรน้อย {MH 383.1}

The mother who permits her child to be nourished by another should consider well what the result may be. To a greater or less degree the nurse imparts her own temper and temperament to the nursing child. {MH 383.2}

มารดาที่ปล่อยให้คนอื่นเป็นผู้เลี้ยงดูบุตรของตน ควรจะคำนึงให้ดีถึงผลที่จะได้รับ เด็กๆ ย่อมรับการถ่ายทอดไม่มากก็น้อยจากอารมณ์และนิสัยใจคอของพี่เลี้ยง {MH 383.2}

The importance of training children to right dietetic habits can hardly be overestimated. The little ones need to learn that they eat to live, not live to eat. The training should begin with the infant in its mother’s arms. The child should be given food only at regular intervals, and less frequently as it grows older. It should not be given sweets, or the food of older persons, which it is unable to digest. Care and regularity in the feeding of infants will not only promote health, and thus tend to make them quiet and sweet-tempered, but will lay the foundation of habits that will be a blessing to them in after years. {MH 383.3}

ความสำคัญในการอบรมเด็กให้มีนิสัยในการรับประทานอาหารอย่างถูกต้องนั้นไม่ใช่เป็นการกล่าวที่เกินความจริง เด็กๆ จำเป็นต้องเรียนรู้ว่า เขารับประทานเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ มิใช่อยู่เพื่อรับประทาน ควรฝึกฝนเด็กตั้งแต่ยังเป็นทารกน้อยในอ้อมแขนของมารดา ควรให้เด็กรับประทานอาหารเป็นเวลาตามกำหนด และลดจำนวนมื้อลงเมื่อเด็กโตขึ้น ไม่ควรให้เด็กรับประทานลูกกวาดหรืออาหารของผู้ใหญ่ซึ่งเป็นอาหารที่ย่อยยาก ความใส่ใจและการให้ทารกได้รับประทานอาหารเป็นเวลามิใช่เพียงแต่ช่วยให้เด็กมีสุขภาพที่ดีเท่านั้น ยังทำให้เด็กไม่ร้องกวนโยเยหรือมีอารมณ์หงุดหงิดอีกด้วย ทั้งยังช่วยวางรากฐานให้กับอุปนิสัยอันจะเป็นพระพรแก่เขาเมื่อเติบโตขึ้น {MH 383.3}

As children emerge from babyhood, great care should still be taken in educating their tastes and appetite. Often they are permitted to eat what they choose and when they choose, without reference to health. The pains and money so often lavished upon unwholesome dainties lead the young to think that the highest object in life, and that which yields the greatest amount of happiness, is to be able to indulge the appetite. The result of this training is gluttony, then comes sickness, which is usually followed by dosing with poisonous drugs. {MH 384.1}

เมื่อทารกเติบโตขึ้น ควรเอาใจใส่ในการฝึกอบรมเด็กเหล่านี้ให้เข้าใจเกี่ยวกับการบริโภคและการเลือกอาหาร เด็กๆ มักจะได้รับการยินยอมให้เลือกอาหารรับประทานตามใจชอบ และมักจะเลือกโดยไม่คำนึงถึงสุขภาพ ความเจ็บปวดและเงินทองที่ทุ่มเทให้กับการรับประทานอาหารที่ปรุงแต่งอย่างดีเลิศแต่ไม่มีคุณค่าต่อร่างกาย ทำให้เด็กๆ เข้าใจผิดว่าเป้าหมายสูงสุดของชีวิตและสิ่งที่จะให้ความสุขได้มากที่สุดก็คือ การรับประทานตามใจชอบ ผลของการอบรมเช่นนี้สร้างเด็กให้เกิดความตะกละตระกราม ตามมาด้วยโรคภัยไข้เจ็บและการรักษาด้วยตัวยาที่เป็นอันตรายต่อร่างกายในที่สุด {MH 384.1}

Parents should train the appetites of their children and should not permit the use of unwholesome foods. But in the effort to regulate the diet, we should be careful not to err in requiring children to eat that which is distasteful, or to eat more than is needed. Children have rights, they have preferences, and when these preferences are reasonable they should be respected. {MH 384.2}

บิดามารดาควรจะฝึกหัดให้เด็กรู้จักบริโภคอาหารแต่พอควรและไม่ควรปล่อยให้เด็กรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ในความพยายามควบคุมอาหารการกินนั้น เราควรระมัดระวังอย่าทำผิดพลาดด้วยการให้เด็กรับประทานอาหารที่ไม่มีรสชาติหรือมากเกินความจำเป็น เด็กๆ มีสิทธิเลือกรับประทานอาหารที่ตัวเองชอบ และถ้าเขาเลือกในสิ่งที่เหมาะสม เราก็ควรจะตามใจเขาได้ {MH 384.2}

Regularity in eating should be carefully observed. Nothing should be eaten between meals, no confectionery, nuts, fruits, or food of any kind. Irregularities in eating destroy the healthful tone of the digestive organs, to the detriment of health and cheerfulness. And when the children come to the table, they do not relish wholesome food; their appetites crave that which is hurtful for them. {MH 384.3}

ควรระมัดระวังเอาใจใส่ให้เด็กรับประทานอาหารให้เป็นเวลาและไม่ควรให้เด็กรับประทานอาหารระหว่างมื้อ ไม่ว่าจะเป็นลูกกวาดหรือขนมหวาน ถั่วเปลือกแข็ง ผลไม้หรืออาหารอื่น การรับประทานอาหารไม่เป็นเวลาทำลายสุขภาพของระบบย่อยอาหารซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพและทำให้จิตใจหดหู่ และเมื่อถึงเวลาอาหาร เด็กๆ จะไม่อยากรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่กระหายอาหารที่ให้โทษต่อร่างกาย {MH 384.3}

Mothers who gratify the desires of their children at the expense of health and happy tempers, are sowing seeds of evil that will spring up and bear fruit. Self-indulgence grows with the growth of the little ones, and both mental and physical vigor are sacrificed. Mothers who do this work reap with bitterness the seed they have sown. They see their children grow up unfitted in mind and character to act a noble and useful part in society or in the home. The spiritual as well as the mental and physical powers suffer under the influence of unhealthful food. The conscience becomes stupefied, and the susceptibility to good impressions is impaired. {MH 384.4}

มารดาผู้ตามใจบุตรบนความสูญเสียของสุขภาพที่แข็งแรงและอารมณ์ที่ร่าเริงกำลังหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความชั่วร้ายให้งอกขึ้นและเกิดผล นิสัยชอบตามใจตนเองจะพัฒนาขึ้นพร้อมกับการเติบโตของเด็กๆ ความสมบูรณ์ของร่างกายและสติปัญญาถูกเบียดบังไป มารดาผู้กระทำเช่นนี้ต้องเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธ์ที่ตัวเองหว่านไว้ด้วยความขมขื่น จะเห็นลูกๆ เติบโตขึ้นด้วยจิตใจและอุปนิสัยไม่เหมาะสมที่จะกระทำในสิ่งที่ดีงามและทำประโยชน์ให้แก่สังคมหรือแก่ครอบครัว จิตวิญญาณตลอดจนถึงกำลังกายและกำลังสติปัญญาย่อมได้รับผลกระทบจากอาหารที่ให้โทษต่อร่างกาย ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจึงตกต่ำลงและอารมย์ซาบซึ้งในคุณงามความดีต้องเสื่อมเสียไป {MH 384.4}

While the children should be taught to control the appetite and to eat with reference to health; let it be made plain that they are denying themselves only that which would do them harm. They give up hurtful things for something better. Let the table be made inviting and attractive, as it is supplied with the good things which God has so bountifully bestowed. Let mealtime be a cheerful, happy time. As we enjoy the gifts of God, let us respond by grateful praise to the Giver. {MH 385.1}

ในขณะที่สอนเด็กๆ ให้รู้จักควบคุมการบริโภคโดยคำนึงถึงคุณค่าต่อสุขภาพ เราควรอธิบายให้เด็กๆ เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่าสิ่งที่เขาทั้งหลายถูกห้ามกระทำนั้นล้วนเป็นอันตรายต่อตัวเองทั้งนั้น เป็นการละเว้นสิ่งที่ให้โทษต่อร่างกายเพื่อสิ่งอื่นที่ดีกว่า จงจัดโต๊ะอาหารให้น่าดูและน่าสนใจด้วยอาหารที่มีประโยชน์ต่างๆ ที่พระเจ้าประทาน จงให้เวลารับประทานอาหารเป็นเวลาที่เบิกบานและมีความสุข ในขณะที่เราได้มีความสุข ในเวลาอันน่าชื่นชมเปรมปรีดิ์กับของประทานจากพระเจ้าเช่นนี้ ให้เราตอบสนองด้วยเสียงสรรเสริญที่เปี่ยมด้วยความซาบซึ้งในพระคุณของพระองค์ผู้ประทาน {MH 385.1}

The Care of Children in Sickness In many cases the sickness of children can be traced to errors in management. Irregularities in eating, insufficient clothing in the chilly evening, lack of vigorous exercise to keep the blood in healthy circulation, or lack of abundance of air for its purification, may be the cause of the trouble. Let the parents study to find the causes of the sickness, and then remedy the wrong conditions as soon as possible. {MH 385.2}

การดูแลเด็กในเวลาป่วยไข้ หลายครั้ง ความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับเด็กๆ สามารถสืบเสาะพบว่ามีสาเหตุมาจากการเลี้ยงดูอย่างไม่ถูกต้อง การรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา การสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่อบอุ่นเพียงพอในเวลากลางคืนที่มีอากาศหนาวเย็น ขาดการออกกำลังกายเพื่อให้โลหิตในร่างกายหมุนเวียน หรือขาดอากาศบริสุทธิ์ที่ใช้ในการฟอกโลหิต สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เด็กป่วยได้ บิดามารดาควรพยายามค้นหาสาเหตุของความเจ็บป่วย จากนั้น ให้ขจัดสภาพที่ไม่เหมาะสมนั้นออกไปให้เร็วที่สุด {MH 385.2}

All parents have it in their power to learn much concerning the care and prevention, and even the treatment, of disease. Especially ought the mother to know what to do in common cases of illness in her family. She should know how to minister to her sick child. Her love and insight should fit her to perform services for it which could not so well be trusted to a stranger’s hand. {MH 385.3}

บิดามารดาทุกคนสามารถเรียนรู้อย่างมากมายถึงวิธีดูแลป้องกันและแม้แต่วิธีการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้เป็นมารดาควรรู้จักวิธีที่พึงปฏิบัติเวลาเกิดโรคสามัญธรรมดาขึ้นในครอบครัว และควรรู้จักวิธีการดูแลปฏิบัติต่อบุตรของตนที่ป่วย เพราะมารดาย่อมมีความรักและมีความเข้าใจอันลึกซึ้งที่จะดูแลบุตรของตนได้ดีกว่าไปไว้วางใจการดูแลของคนแปลกหน้า {MH 385.3}

The Study of Physiology Parents should early seek to interest their children in the study of physiology and should teach them its simpler principles. Teach them how best to preserve the physical, mental, and spiritual powers, and how to use their gifts so that their lives may bring blessing to one another and honor to God. This knowledge is invaluable to the young. An education in the things that concern life and health is more important to them than a knowledge of many of the sciences taught in the schools. {MH 385.4}

การศึกษาในเรื่องของสรีระวิทยา บิดามารดาควรปลูกฝังลูกๆ ให้มีความสนใจต่อการศึกษาในเรื่องของสรีระวิทยาและควรสอนหลักการอย่างง่ายๆ สอนพวกเขาให้รู้จักวิธีสงวนรักษากำลังของร่างกาย ของสติปัญญาตลอดจนอำนาจในฝ่ายจิตวิญญาณให้ดีที่สุดได้อย่างไร และรู้จักวิธีใช้ของประทานเหล่านี้เพื่อว่าชีวิตของเขาทั้งหลายจะเป็นพระพรแก่กันและกันและเพื่อเป็นการถวายพระเกียรติแก่พระองค์ได้อย่างไร ความรู้นี้มีค่าเหลือล้นสำหรับเด็กๆ การศึกษาเล่าเรียนในสิ่งที่เกี่ยวกับชีวิตและสุขภาพ มีความสำคัญต่อเด็กเหล่านี้ยิ่งกว่าความรู้ในแขนงต่างๆ ที่สอนกันในโรงเรียน {MH 385.4}

Parents should live more for their children, and less for society. Study health subjects, and put your knowledge to a practical use. Teach your children to reason from cause to effect. Teach them that if they desire health and happiness, they must obey the laws of nature. Though you may not see so rapid improvement as you desire, be not discouraged, but patiently and perseveringly continue your work. {MH 386.1}

บิดามารดาควรใช้ชีวิตเพื่อลูกๆ มากกว่าเพื่อสังคม จงเรียนรู้ถึงเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับสุขภาพและนำความรู้นั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์ จงสอนลูกๆ ของท่านให้รู้จักใช้เหตุผลค้นหาจากสาเหตุจนถึงผลลัพธ์ จงสอนให้พวกเขารู้ว่าถ้าปรารถนาจะมีสุขภาพที่ดีและมีความสุข เด็กๆ ต้องปฏิบัติตามกฎแห่งธรรมชาติ แม้ว่าท่านอาจมองไม่เห็นการปรับปรุงที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็วตามที่ตนเองต้องการ ก็อย่าท้อถอย แต่จงพากเพียรปฏิบัติหน้าที่ของท่านต่อไปด้วยความอดทน {MH 386.1}

Teach your children from the cradle to practice self-denial and self-control. Teach them to enjoy the beauties of nature and in useful employments to exercise systematically all the powers of body and mind. Bring them up to have sound constitutions and good morals, to have sunny dispositions and sweet tempers. Impress upon their tender minds the truth that God does not design that we should live for present gratification merely, but for our ultimate good. Teach them that to yield to temptation is weak and wicked; to resist, noble and manly. These lessons will be as seed sown in good soil, and they will bear fruit that will make your hearts glad. {MH 386.2}

จงสอนลูกๆ ของท่านตั้งแต่ยังอยู่ในเปลให้รู้จักบังคับและควบคุมตัวเอง สอนพวกเขาให้มีความเพลิดเพลินใจกับธรรมชาติที่สวยงาม และประโยชน์จากการใช้พลังงานของร่างกายและของสติปัญญาอย่างมีระบบระเบียบ จงอบรมเลี้ยงดูเด็กๆ ให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและมีศีลธรรมจรรยาอันดี รวมทั้งให้เป็นคนอารมณ์ร่าเริงและแจ่มใส จงสร้างความประทับใจในจิตใจที่สุภาพอ่อนโยนของลูกๆ ได้ตระหนักถึงความจริงที่ว่าพระเจ้าทรงมิได้มีพระประสงค์ให้เรามีชีวิตอยู่เพื่อสนองความสุขในปัจจุบันของตนเท่านั้น แต่เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดของเรา จงสอนลูกๆ ให้รู้ว่า การยอมพ่ายแพ้ต่อการทดลองเป็นเรื่องของความอ่อนแอและเป็นสิ่งที่เลวทราม แต่การต่อต้านการทดลองย่อมถือว่าเป็นความกล้าหาญและเป็นสิ่งที่ดีงาม บทเรียนเหล่านี้จะเป็นเสมือนเมล็ดพันธุ์ที่หว่านลงในดินดีและจะบังเกิดผลซึ่งจะทำให้ท่านมีจิตใจที่ชื่นชมยินดี{MH 386.2}

Above all things else, let parents surround their children with an atmosphere of cheerfulness, courtesy, and love. A home where love dwells, and where it is expressed in looks, in words, and in acts, is a place where angels delight to manifest their presence. {MH 386.3}

เหนือสิ่งอื่นใด บิดามารดาต้องเลี้ยงดูลูกๆ ด้วยบรรยากาศแห่งความสดชื่นแจ่มใส ความสุภาพอ่อนโยนและเปี่ยมด้วยความรัก ครอบครัวที่อิ่มเอิบด้วยความรัก ซึ่งสมาชิกในครอบครัวต่างแสดงออกมาจากสีหน้าท่าทาง คำพูดและการกระทำ เป็นที่ๆ ทูตสวรรค์มีความปีติยินดีที่จะสถิตอยู่ที่นั่น {MH 386.3}

Parents, let the sunshine of love, cheerfulness, and happy contentment enter your own hearts, and let its sweet, cheering influence pervade your home. Manifest a kindly, forbearing spirit; and encourage the same in your children, cultivating all the graces that will brighten the home life. The atmosphere thus created will be to the children what air and sunshine are to the vegetable world, promoting health and vigor of mind and body. {MH 387.1}

บิดามารดาทั้งหลาย ขอให้ท่านมีจิตใจที่เปี่ยมด้วยความรัก ความเบิกบานใจและความสุข และจงให้บรรยากาศอันแสนอบอุ่นและน่าชื่นใจเหล่านี้ได้อบอวลอยู่ในครอบครัวของท่าน จงแสดงจิตใจที่เมตตาปรานีและมีความอดทนอดกลั้นและส่งเสริมลูกๆ ของท่านให้มีคุณสมบัติอย่างเดียวกัน จงปลูกฝังคุณงามความดีทั้งปวงให้ส่องสว่างในชีวิตครอบครัวของท่าน บรรยากาศที่เกิดขึ้นนี้จะเสริมสร้างให้ลูกๆ มีสติปัญญาและร่างกายที่เฉียบคมและแข็งแรง เหมือนดังเช่นอากาศและแสงแดดมีผลต่อเหล่าพฤกษชาติบนโลกนี้ {MH 387.1}