Chapter 60 บทที่ 60
Witnessing for Christ
เป็นพยานเพื่อพระคริสต์
All who are on the Lord’s side are to confess Christ. “Ye are My witnesses, saith the Lord.” The faith of the genuine believer will be made manifest in purity and holiness of character. Faith works by love and purifies the soul, and with faith there will be corresponding obedience, a faithful doing of the words of Christ. Christianity is always intensely practical, adapting itself to all the circumstances of actual life. “Ye are My witnesses.” To whom?–To the world; for you are to bear about with you a holy influence. Christ is to abide in your soul, and you are to talk of Him and make manifest the charms of His character. {MYP 200.1}
ทุกคนที่อยู่ฝ่ายพระยาห์เวห์จะต้อง ยอมรับพระคริสต์ “พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ ว่า ‘เจ้าทั้งหลายเป็นสักขีพยานของเรา’” อิสยาห์ 43:10 ความเชื่อของผู้เชื่อที่แท้จริง จะสำแดงออกทางอุปนิสัยที่สะอาดและ บริสุทธิ์ ความเชื่อกระทำการด้วยความรัก และชำระจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ และพร้อม กับความเชื่อจะมีการเชื่อฟังและการกระทำ อย่างสัตย์ซื่อต่อพระวจนะของพระคริสต์ ตามมาด้วย คริสต์ศาสนามีความเข้มข้น ในเชิงปฏิบัติอยู่ตลอดเวลา ปรับตนเองให้ เข้ากับทุกสถานการณ์ในชีวิตจริง “พวกเจ้า เป็นสักขีพยานของเรา” อิสยาห์ 43:12 เป็นพยานให้ผู้ใดหรือ เป็นพยานต่อชาวโลก ทั้งปวง เพราะว่าคุณต้องสำแดงอิทธิพลที่ บริสุทธิ์ต่อคนรอบข้างของคุณ พระคริสต์ ทรงร่วมสถิตอยู่ในจิตวิญญาณของคุณ และคุณควรต้องสนทนาถึงพระองค์และ สำแดงถึงความงดงามแห่งพระลักษณะ ของพระองค์ {MYP 200.1}
The fashionable religion of the time has so molded character that youth who make a profession of Christ scarcely mention His name to their associates. They converse of many subjects, but the precious plan of redemption is not made a theme of conversation. Suppose that as practical Christians we should change this order of things, and “show forth the praises of Him who hath called us out of darkness into His marvelous light.” If Christ is abiding in the heart by faith, you cannot keep silent. If you have found Jesus, you will be a true missionary. You are to be enthusiastic in this matter, and let those know who do not appreciate Jesus that you have found Him precious to your soul, that He has put a new song in your mouth, even praise to God. {MYP 200.2}
Our Conversation
การสนทนาของเรา
ศาสนาตามสมัยนิยมในยุคนี้ปั้น แต่งอุปนิสัยจนเยาวชนที่อ้างตนว่ายอมรับ พระคริสต์แทบจะไม่เอ่ยถึงพระนามของ พระองค์กับมิตรสหายของพวกเขาเลย พวกเขาคุยถึงเรื่องอื่นมากมายแตเรื่อง แผนการช่วยให้รอดอันล้ำค่านั้นไม่เคย เป็นหัวข้อนำมาสนทนากัน สมมติว่าใน ฐานะที่เราเป็นคริสเตียนที่ตื่นตัว เราควร เปลี่ยนแปลงความไม่ถูกต้องของเรื่องนี้ และ “ให้พวกท่านประกาศพระเกียรติคุณ ของพระองค์ ผู้ได้ทรงเรียกพวกท่านให้ ออกมาจากความมืด เข้าไปสู่ความสว่างอัน มหัศจรรย์ของพระองค์” 1 เปโตร 2:9 หาก พระคริสต์สถิตในใจของคุณโดยความเชื่อ คุณจะอยู่นิ่งไม่ได้ หากคุณพบพระเยซูแล้ว คุณจะเป็นมิชชันนารีอย่างแท้จริงคุณจะ กระตือรือร้นในเรื่องนี้ และให้ผู้ไม่ชื่นชม ในพระเยซูทราบว่าคุณพบพระองค์ผู้ทรง คุณค่าต่อจิตวิญญาณของคุณ ผู้ทรงใส่ บทเพลงใหม่แก่ปากของคุณ แม้แต่คำ สรรเสริญถวายพระเจ้า {MYP 200.2}
My young friends, will you begin your Christian life as those whose hearts are warmed with the love of Jesus? You will never know how much good you may do by speaking tenderly sensible, serious words regarding their souls’ salvation to those who do not claim to be children of God. On the other hand you may never know until the judgment how many opportunities to be Christ’s witnesses you have left unimproved. You may never know in this world the mischief you have done to some soul by your little acts of frivolity, your cheap talk, your levity, which was wholly inconsistent with your holy faith. {MYP 201.1}
เพื่อนเยาวชนทั้งหลายของดิฉัน คุณจะเริ่มต้นชีวิตคริสเตียนของคุณเช่น เดียวกับผู้ที่มีหัวใจอบอุ่นด้วยความรักของ พระเยซูไหม คุณจะไม่เคยทราบเลยว่า จะเป็นการดีต่อคุณเพียงไร หากใช้คำพูด นุ่มนวล มีสาระแต่จริงจังเกี่ยวกับเรื่อง ความรอดของจิตวิญญาณแก่ผู้ที่มิใช่เป็น บุตรธิดาของพระเจ้า ในทางกลับกัน คุณ จะไม่เคยทราบเช่นกันจนกระทั่งการ พิพากษามาถึงว่าคุณปล่อยโอกาสของ การเป็นสักขีพยานของพระคริสต์มากมาย เพียงไรให้ผ่านไปโดยไม่ปรับปรุงให้ดีขึ้น คุณอาจไม่เคยรู้เลยว่าในโลกนี้ เราสร้างความเสียหายต่อจิตวิญญาณบางรายด้วย การกระทำอันน้อยนิดที่ไม่เอาจริงเอาจัง ด้วยคำพูดหยอกล้อ และการตลกคะนอง ของคุณเป็นสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับความเชื่อ อันบริสุทธิ์ของคุณ {MYP 201.1}
It is true, you may feel a sort of anxiety for the souls of those you love. You may seek to open to them the treasures of truth, and in your earnestness shed tears for their salvation; but when your words seem to make but little impression, and there is no apparent response to your prayers, you almost feel like casting reflection upon God that your labors bear no fruit. You feel that your dear ones have special hardness of heart, and that they do not respond to your efforts. But have you thought seriously that the fault may lie in your own self? Have you thought that you are pulling down with one hand that which you are striving to build up with the other? {MYP 201.2}
Winning Loved Ones
การนำผู้ที่เรารักมาร่วมในความเชื่อ
เป็นความจริงที่คุณอาจรู้สึกกังวล ต่อจิตวิญญาณของผู้ที่คุณรัก คุณอาจ เพียรพยายามประกาศขุมทรัพย์แห่ง สัจธรรมแก่พวกเขา และท่ามกลางความ จริงใจของคุณถึงกับหลั่งน้ำตาเพื่อความ รอดบาปของพวกเขา แต่เมื่อคำพูดของ คุณดูเหมือนจะไม่ประทับใจพวกเขาสัก เท่าไร และไม่มีการตอบสนองอย่างเด่น ชัดของคำอธิฐาน คุณก็แทบจะรู้สึกอยาก ตำหนิพระเจ้าว่าความพยายามของคุณนั้น ไร้ผล คุณรู้สึกว่าผู้ที่คุณรักมีใจแข็งกระด้าง เป็นพิเศษ และพวกเขาไม่ตอบสนองต่อ ความพากเพียรของคุณ แต่คุณเคยลอง ทบทวนอย่างจริงจังหรือไม่ว่าข้อผิดพลาด นี้อาจเกิดจากตัวคุณเอง คุณเคยคิดบ้าง ไหมว่าคุณกำลังใช้แขนข้างหนึ่งไปดึงสิ่ง ที่แขนอีกข้างหนึ่งพยายามที่จะสร้างขึ้น {MYP 201.2}
At times you have permitted the Spirit of God to have a controlling power over you, and at other times you have denied your faith by your practice, and have destroyed your labor for your loved ones; for your efforts in their behalf have been made of none effect by your practice. Your temper, your unspoken language, your manners, the repining state of your mind, your want of Christian fragrance, your want of spirituality, the very expression of your countenance, has witnessed against you. . . . {MYP 201.3}
บางครั้ง คุณยอมให้พระวิญญาณ ของพระเจ้ามีอำนาจควบคุมเหนือคุณ และในเวลาอื่นคุณปฏิเสธความเชื่อด้วย การกระทำของคุณและทำลายแรงที่คุณ ทุ่มให้กับคนที่คุณรัก เพราะการลงแรงของ คุณเพื่อพวกเขาไม่เกิดผลเนื่องจากการ กระทำของคุณเอง อารมณ์ของคุณ ภาษา ของคุณที่ไม่ได้กล่าวมาเป็นคำพูด ท่าทาง ของคุณ สภาพความไม่พอใจของความคิด การขาดกลิ่นไอของคริสเตียน การขาดชีวิต ฝ่ายจิตวิญญาณ การแสดงออกทางสีหน้า ของคุณเป็นพยานปรักปรำตัวคุณ. . . . {MYP 201.3}
Never underrate the importance of little things. Little things supply the actual discipline of life. It is by them that the soul is trained that it may grow into the likeness of Christ, or bear the likeness of evil. God helps us to cultivate habits of thought, word, look, and action that will testify to all about us that we have been with Jesus and learned of Him!–The Youth’s Instructor, March 9, 1893. {MYP 202.1}
อย่าประเมินค่าความสำคัญของ เรื่องเล็กๆ ต่ำเกินไป เรื่องเล็กน้อยมัก ปลูกฝังระเบียบวินัยที่แท้จริงของชีวิต สิ่งเหล่านี้จะฝึกอบรมจิตวิญญาณเพื่อให้ เติบใหญ่ตามพระลักษณะของพระคริสต์ หรือมิฉะนั้นก็ไปเลียนแบบความเลวทราม ของความชั่ว พระเจ้าทรงช่วยเราให้ปลูกฝัง นิสัยทางความคิด การพูด การแสดงออก ทางใบหน้าและการกระทำที่จะเป็นพยาน ให้ทุกคนที่อยู่รอบตัวเราทราบว่าเราได้ไป อยู่กับพระเยซูและได้เรียนรู้เรื่องของ พระองค์– The Youth’s Instructor, March 9, 1893. {MYP 202.1}
A life spent in active work for God is a blessed one. Multitudes who are wasting their time in trifles, in idle regrets, and in unprofitable murmurings, might have altogether a different experience if they would appreciate the light God has given them, and let it shine upon others; and many make life miserable by their own selfishness and love of ease. By a diligent activity, their lives might become as bright rays of sunshine to guide those who are in the dark road to death into the pathway to heaven. If they take this course, their own hearts will be filled with peace and joy in Jesus Christ. –Review and Herald, October 25, 1881. {MYP 202.2}
Earnestness
ความตั้งใจจริง
ชีวิตที่ใช้ไปกับการทำงานอย่าง คล่องแคล่วว่องไวเพื่อพระเจ้าเป็นชีวิต ที่ได้รับพระพร คนมากมายที่ทำให้เวลา ของพวกเขาสูญสิ้นไปอย่างไร้สาระ นั่ง เศร้าใจอย่างเกียจคร้าน และบ่นโอดครวญ อย่างไร้ประโยชน์อาจได้ประสบการณ์ที่ แตกต่างกันออกไปหากพวกเขาจะซาบซึ้ง กับความกระจ่างที่พระเจ้าประทานให้ แก่พวกเขา และให้ส่องไปยังคนอื่น และ หลายคนทำให้ชีวิตยากลำเค็ญด้วยความ เห็นแก่ตัวและการรักความสบาย ด้วยกิจกรรมที่ทำอย่างขยันขันแข็ง ชีวิตของ พวกเขาอาจกลายเป็นแสงแดดอันเจิด จำรัสที่ส่องทางแก่ผู้ที่กำลังเดินอยู่บน ทางมืดแห่งความตายให้หันก้าวสู่ทางเดิน สวรรค์ หากพวกเขายินยอมดำเนินไปใน ทางนี้ ชีวิตของเขาจะเปี่ยมล้นด้วยสันติสุข และความชื่นชมยินดีในพระเยซูคริสต์– Review and Herald, October 25, 1881. {MYP 202.2}